การเดินทางที่ไปในครั้งแรกที่ไปบ้านลุงมวลและครั้งแรกที่นั่งรถทัวร์เริ่มต้นด้วยการนั่งรถทัวร์ของ  บางสะพานทัวร์ไป (ไม่ได้ขับรถไปเอง) ออกเที่ยว เที่ยงคืน ของวันที่ 11 เมษายน 2553 (ไปนั่งรอรถช่องเบอร์5แต่ด้านในนะ เราก็มองว่าอะไรว๊ะไม่เห็นมีใครมารอรถเลย  มีแต่เจ้าหน้าที่ รปภ ที่นั่งกินเบียร์กับเพื่อนๆ เค้า แล้วเดินมาทางนี้พอดีเค้าถามเราว่าจะไปไหนครับ เราก็บอกว่าไปบางสะพาน คำที่เค้าบอกเราคือ  โน้นพี่ต้องไปรอรถด้านนอกช่องเบอร์5 รถบางสะพานน้อย กำรอตั้งนาน สกปรกมากๆไม่บอกว่าประเทศไทยจะนึกว่า เขมร ไม่ก็อินเดียตามชนบท เห้อรอดได้ไปแล้วบางสะพานไม่ตกรถ)  บอกกระเป๋ารถว่าลงโรงเรียน  "บ้านปากคลอง" แล้วโทรศัทพ์บอกให้คุณปู มารับที่หน้าโรงเรียน   ( รอนานมากในครั้งนี้ ใจเสียเลย ปรึกษากับเพื่อนว่าเอายังไงดีเลยโทรหา 191 แล้วเค้าก็แนะนำเบอร์โรงพักมาให้ เผื่อให้ตำรวจพาไป แต่คุณปูเปิดโทรศัพท์เสียก่อนเลยไม่ได้ใช้บริการตำรวจ  พอได้รู้ถึงเหตุผลในการปิดโทรศัทพ์ ก็เข้าใจไม่ได้ว่าอะไร  แต่ใจเสียไปแล้วหละ) พอคุณปูมารับก็งง เพราะว่าเราไม่เห็นป้ายเลย  ที่จะเข้าที่พัก เพื่อนเราเดินเลยไป( ขณะที่โทรติดต่อใครไม่ได้)ไกลมาก  คุณปูก็บอกว่า ลุงมวลยังไม่ทำป้าย แต่รับปากแล้วว่าปีหน้ามีแน่นอน  เพราะว่าลุงมวลไม่รู้จักอินเตอร์เน็ต และไม่รู้ว่าเวปของที่พักขึ้นอันดับ รู้จากแขกที่ไปพักอีกที  (ขึ้นป้ายมันก็เสียค่าภาษีป้ายนะ แต่ก็ต้องขึ้น)  พอไปถึงก็บรรยากาศสวยวิวกว้าง เห็นแต่น้ำทะเล พระอาทิตย์ขึ้น ก็สวยงาม   (แดดแรงม๊ากม๊าก)  ก็จิบกาแฟไป 1ถ้วย กะข้ามต้มทำเล  ที่รสชาติก็ถือว่าพอใช้ได้อยู่ (แล้วแต่ปรุง แต่เราไม่ปรุงมาไงกินงั๊น)  สักพักก็ลงดำน้ำด้วยสปี๊ดโบทเลย ไปกับพี่....(แหะๆๆ จำชื่อไม่ได้) กับคณะอีก1คณะที่เราไม่รู้จัก แต่ก็ไปรู้จักเองที่ลงเรือไป ( ก็คนไทยด้วยกัน รู้จักกันง่ายอยู่แล้ว)  แต่ขอบอกเลยว่าพี่คนที่พาไป  อัธยาศัยดีมากๆๆ แทคแคร์ดีมากพูดจาดี เอาใจใส่ลูกทัวร์ดี ขอชมพี่เค้าเลย (คุณต้องไปเองแล้วคุณจะรู้เองว่าเค้าดียังไง ) พอเรือออกไปไม่นานมากมองวิวเพลิน ก็ถึงช่องทะลุ และก็ไปดำน้ำถัดจากช่องทะลุไม่ไกลมาก  ไม่ขอเล่าเรื่องดำน้ำของตัวเอง อิอิ เพราะว่าเราว่ายน้ำไม่ค่อยเป็น ก็ได้พี่เค้านี่แหละช่วยตลอดเลยไม่งั๊นไม่ได้ดู ประการังแน่นอน  เค้าไม่ทิ้งเราเลย  

                       จุดแรก  ปลาเยอะมากๆๆ มีการให้ขนมปังและเปลือกแตงโม ที่ทางบ้านลุงมวลเตรียมเอาไว้ให้ ประการังตรงนี้ก็ถือว่าสวยในระดับน้ำตื้น (ขนาดตื้น) แต่ขอให้ระวังนิ๊ด เพราะว่าประการังที่สามารถเหยียบได้มันลื่นพอสมควร  แต่ถ้าดำน้ำเป็นสบายมาก           ต่อจุดที่ 2

                      จุดที่สอง  เป็นหาดทรายแต่ก็มีประการัง มีหอยมือเสือ น้ำใสมาก    คนว่ายน้ำเป้นจะชอบมากๆๆๆ

                       จุดที่สาม  ก็เป็นน้ำลึกหน่อย เค้าว่าสวยแต่ก็คงสวยนะ (อันนี้เราไม่ได้ลง) จุดนี้อาจจะเกิดอาการคันกันเล็กน้อย แต่จุดตรงนี้เค้าว่าสวยที่สุดจากที่สามจุดที่ไป   จุดนี้พร้อมอาหารกล่อง ที่ทางบ้านลุงเค้าจัดเอาไว้ให้ เป็นข้าวผัด  แต่มันชืดหมดและ  เลยไม่ค่อยอร่อย เราเลยไม่กินให้ปลาแถวนั้นกินแทน

                                                 ทั้งสามจุดนี้ แล้วแต่เวลาที่เราและคณะต้องการ 

                                     ขึ้นฝั่งมาเกือบ 11 โมงเห็นจะได้ ก็อาบน้ำเตรียมตัวสั่งข้าวกิน เพราะว่าข้าวที่เค้าจัดให้เรากินไม่ได้ เลยสั่ง ผัดฉ่าหอย   กะ  ต้มยำทะเล  น้ำใส   เลยสั่งกุ้งเผา และ ปลาหมึกย่างเอาไว้ (พี่คนที่พาไปดำน้ำบอกว่าจะกินอะไร ให้สั่งเอาไว้ สำหรับมื้อเย็นถ้าอยากกินอะไรพิเศษ)     มือเที่ยง  บอกก่อนว่าเจอข้าวดิบ อิอิ อันนี้ให้อภัย เพราะว่าเค้าไปจัดการให้ข้าวสุกจนเรากินได้   ในขณะที่กินเราก็แอบเดาราคาไปตามที่น่าจะเป็น (สั่งโดยไม่ถามอะไรทั้งสิ้น )  กินเสร็จก็นั่งรอ สักพัก พัก พักแล้วก็พัก  พักแล้วก็พักอีก  ( อันนี้ไม่ได้ว่าอะไรทางบ้่านลุงมวล เพราะว่าเรารู้ว่าอืมเชคอิน บ่ายสองโมง คะเยอะม๊ากมาก)  พอถึงห้องพัก บอกตามตรงนะ หลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้เลย เพราะว่าที่นั่งรถมาไม่ได้นอนเลยทั้งคืน ตื่นขึ้นมาอีกที  น่าจะ เกือบทุ่ม ก็ เดินดุ่มๆๆมาทางที่กินข้าวเด็กมาถามว่า  คณะคุณบีหรือเปล่าค่ะ ตั้งโต๊ะเลยไหมค่ะ  ตอบไปว่า จ๊ะตั้งเลย  และก็ถามเด็กต่อว่านั่งตรงไหน  (เราไป2คนก็โต๊ะเล็ก)    มื้อเย็นมี   ข้าว 1  โถ  แกงส้มปลา ไข่เจียวกุ้งสับ ยำทะเล  ปูผัดผงกระหรี่ กับจานพิเศษ  กุ้งเผา กะปลาหมึกย่าง จานโตมากๆๆ แต่ผิดหวังเรื่องกุ้ง เรานึกว่ากุ้งจะตัวใหญ่ๆ  ก็เป็นไปตามนิสัย  ทายราคาอาหาร ก็ทายกันไป กินอิ่มก็มานั่งชมวิวทะเล ยามค่ำคืน  อยุ่พักพูดคุยกับคนโน้นคนนี้ได้สักพัก ใจอยากตกหมึกแต่คนที่ไปด้วยไม่ไปเลยอดเลย     กลับมานอนยันเช้า  ด้วยความที่ตั้งใจว่าว่าเช้ามาจะตื่นมาดูพระอาทิตย์ขึ้น  แต่ไม่ทันคร๊าฟ เหนื่อย  

             เช้ามาเมนูตามเดิม  ปาท่องโก๊ทอดจิ้มนมข้นหวาน + ข้าวต้ำทะเล ตบท้ายกาแฟ 1แก้ว  เตรียมตัวกลับตอน10.30 น.   รถของที่พัก ก็มาส่ง  เรากับอีกคณะที่ไปเที่ยวที่บ้านลุงมวล  ณ   สถานที่ที่จะขึ้นรถกลับ กทม  (ตกใจเพราะว่าที่มองมันคือบ้านคนที่ใช้เป็นท่ารถ)  และก็มาถึง กทม โดย สวัสดิภาพ (แต่สมบุกสมบันสำหรับเรา)

                 อ่ะครับ เรามาดูราคาในสิ่งที่เดาๆกัน 

                  มื้อกลางวัน ผัดฉ่าทะเล  จานละ 100 บาท      ที่เราคิด  150

                                    ต้มยำทะเล (หม้อ)  150 บาท            "       150    อันนี้ตรงแฮะ

                 มื้อเย็น          กุ้งเผา                  350  บาท            "       350      ตรงอีกและ

                                     หมึกเผา                200 บาท            "         200     ตรงแฮะ                           ตรบมือให้ตัวเองหน่อยทายถูก  3  อย่าง อิอิ

          ราคาถือว่าไม่แพงเลยสำหรับความสด ของอาหาร   แต่อย่างที่บอก ผิดหวังกุ้งนึกว่าจะตัวใหญ่ๆๆ           

                       ทั้งหมดนี้ก็เป็นประสบการณ์จริงที่ไปกันมา ขอเชิญไปสำผัสบรรยากาศแบบเราที่เราได้ไปเที่ยวมาแล้ว   และคุณจะรู้ว่า  ที่บ้านลุงมวล เป็นสถานที่ที่คุณต้องคิดถึงและเป็นความคิดต้นๆสำหรับทริปที่จะมาทะเล (แบบสงบ)      

                       รับลองว่าทางคณะเราจะต้องไปพักบ้านลุงมวลเป็นครั้งที่2 และ 3 อย่างแน่นอน

                                                                                                                บันทึกจากความประทับใจ

                                                                                                   บี

                                                                                       บ้านพรหมมเหศวร